วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Tales of Demons & Gods บทที่ 35 ล่อลวงปัญหามา

Tales of Demons & Gods บทที่ 35 ล่อลวงปัญหามา




            ความแม่นยำในการยิงธนูของเนี่ยลี่นั้นสูงมาก เจ้าวานรยักษ์ฟ้าที่ถูกยิงโดยเขาร้องออกมาอย่างทรมาน วานรยักษ์ฟ้าไม่สามารถต้านทานต่อพิษของหญ้าทะเลหมอกม่วงได้ หลังจากพวกเขายกอาวุธขึ้นในมือ เซิ่นหลินเจี่ยนและนักสู้ระดับซิลเวอร์ฟาดฟันไปที่เจ้าวานรยักษ์ฟ้าตนนั้น
           

ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!
           

      เลือดสาดกระเซ็นไปรอบพื้นที่ สาดใส่เซิ่นหลินเจี่ยนและคนของเขาจนเลอะไปด้วยเลือดสีแดง

           

         เนี่ยลี่รู้ว่านี่เป็นวิธีเฉพาะที่ส่งวานรยักษ์ฟ้ามาเพื่อตรวจสอบกำลังของคณะโดยเจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณ ความเฉลียวฉลาดของวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณนั้นน่าตกใจเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น พละกำลังในการต่อสู้ของมันยังน่าหวาดหวั่นด้วย

           

      เมื่อชีวิตที่แล้วของเขา เมื่อเอียจื่ออวิ๋นและผู้ติดตามมาถึงนครกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ พวกเขาไม่ได้เข้าปะทะกับพวกสัตว์อสูรผสานวิญญาณ แต่การปรากฏตัวของมันในตอนนี้ทำให้เนี่ยลี่สับสน เนี่ยลี่หมดหวังแต่เขาก็ขับเคลื่อนพลังวิญญาณที่ได้รับมาจาก ชู่หยวน ถ้าเขาสามารถไปถึงระดับ บรอนซ์สองดาวได้ในตอนนี้มันจะปลอดภัยขึ้นบ้าง
           

           “พวกเราจะล่อมันตรงไปยังป้อมหิน!” เนี่ยลี่พูดเสียงดัง การป้องกันของป้อมนั้นแน่นหนาและแข็งแรงกว่า นั่นจะสามารถใช้เพื่อจัดการกับเจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณนี้ได้
           

กรรรว!!
           


        เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณฟ้ากระโดดขึ้น พุ่งเข้าปะทะไปยังทิศทางของพวกเขามุ่งไป มันยกแขนหนา ๆ ของมันขึ้นและพุ่งไปที่คน ๆ หนึ่งของเซิ่นหลินเจี่ยน
           

บูม!
           


       เจ้าวานรยักษ์ฟ้าตบคน ๆ นั้นที่ท้องของเขา คน ๆ นั้นร้องโหยหวน กระเด็นไปและกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เลือดสาดกระเซ็นเมื่อเขาร่วงลงสู่พื้น
           

        คน ๆ นั้นอยู่ที่ระดับซิลเวอร์สองดาว เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณตนนี้มีกำลังมากอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่ตบทีเดียวมันสามารถฆ่ายอดฝีมือระดับซิลเวอร์สองดาวได้ ไม่เคยมีผู้ใดที่เคยเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน หลังจากได้เห็นสิ่งนี้ หน้าของพวกเขาซีดเผือก หลังจากมันฆ่าได้ไปหนึ่งคน วานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณตนนี้ไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าโจมตีอีก พวกมันกำลังรออยู่ข้างนอก เหมือนกับเสือที่กำลังเล่นอยู่กับเหยื่อของมัน กำลังมองหาโอกาสที่จะจู่โจมเหยื่อโดยไม่ให้รู้ตัว
           


           “แย่แล้ว เจ้าลิงตัวนั้นมันแข็งแกร่งเกินไป ! ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นหัวหน้าของเหล่าวานรยักษ์ฟ้าพวกนี้ เสียงคำรามของมันจะดึงดูดให้พวกวานรยักษ์ฟ้าใกล้ ๆ มาสมทบเพิ่มอีก!


      “ เนี่ยลี่พูดพลางขมวดคิ้ว“กลุ่มของพวกเราตกเป็นเป้าหมายทั้งหมด พวกเราจำเป็นที่จะต้องแยกกลุ่ม!”
           
           


      เซิ่นหลินเจี่ยนขมวดคิ้วของเขาเล็กน้อย ลดเสียงของเขาต่ำลงและพูดว่า “ตกลง พวกเราจะแยกไปเป็น หก กลุ่มแล้วไปพบกันที่ป้อมหิน”
           

กลุ่มได้แยกตัวกันอย่างรวดเร็ว
           

          ฮูเหยียน หลานเร่อ และ เอียจื่ออวิ๋นได้ติดตามเนี่ยลี่พร้อมกับผู้ติดตาม สองคนและเพื่อนอีกคนที่สนิทของนาง
           


           * ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! * กลุ่ม หกกลุ่มวิ่งแยกออกไปในทิศทางที่ต่างกัน หกทิศทาง
           
           


             เจ้าสัตว์อสูรวานรยักษ์ฟ้านั้นวางแผนที่จะกำจัดคณะอย่างช้า ๆ ไปทีละคน อย่างไรก็ตามมันไม่คิดว่าพวกนั้นจะแยกตัวออกเป็น หก กลุ่ม และวิ่งไปในทิศทางที่แตกต่างกัน มันหยุดชะงักชั่วขณะและได้เริ่มไล่ตามกลุ่มของเนี่ยลี่ไป
           


             เนี่ยลี่ยิ้มอย่างเจ็บปวด ทำไมโชคของเขาถึงได้แย่เช่นนี้ หลังจากแยกเป็น หก กลุ่มทำไมเจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณถึงได้ไล่ตามกลุ่มของพวกเขา
           

            “พวกเจ้าไปก่อนเลย รีบเร็วเข้า !” เนี่ยลี่ตะโกน นำเอาขวดยาจำนวนหนึ่งที่ทำมาจากหญ้าทะเลหมอกม่วงออกมาจากแหวนห้วงมิติ
            เอียจื่ออวิ๋นค่อย ๆ หยุดวิ่ง เมื่อมองเห็นด้านหลังของเนี่ยลี่เขากำลังจะเผชิญหน้ากับวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณ สิ่งนี้นั้นทำให้จิตใจของนางรู้สึกสั่นไหว
           

           ภายในดวงตาของฮูเหยียน หลานเร่อเริ่มมีน้ำตาซึมจนเป็นสีแดง ในสถานการณ์ที่เลวร้ายถึงเพียงนี้ เนี่ยลี่ไม่คิดถึงการเอาตัวรอดของเขาแต่เพียงผู้เดียว แต่เขายังจะตัดสินที่จะอยู่คอยคุ้มกันด้านหลังให้แก่นาง นางรู้สึกซาบซึ้งใจในการกระทำของเนี่ยลี่เป็นอย่างมาก
           

          “เร็วเข้า! อย่าชักช้า! ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้า ข้ามีวิธีจัดการกับมันได้”



เนี่ยลี่พูด “ แยกกลุ่มกันและวิ่งไป ไม่อย่างนั้นเจ้าจะไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดไปได้
           

         เอียจื่ออวิ๋นและฮูเหยียน หลานเร่อ กัดฟันกล้ำกลืนไปพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นจากดวงตาของพวกนาง พวกนางหยุดชั่วขณะมองดูที่หลังของเนี่ยลี่ แต่สุดท้ายก็ตัดใจแล้ววิ่งเข้าไปในป่า
           

กรรวว!
           

          เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณฟ้าเหวี่ยงแขนของมันและได้กระแทกแขนของมันไปยังเนี่ยลี่
           

         ก่อนที่แขนของมันจะถึงตัวของเขานั้นเนียลี่ก็ได้ย่อตัวลงและได้กลิ้งตัวหลบไปบนพื้นดิน
           

บูม !!
           


           แขนอันใหญ่ของมันกระแทกไปยังจุดที่เนี่ยลี่เคยอยู่เมื่อชั่วครู่นี้ รอยแยกปรากฏบนพื้นดินและทำให้หินข้าง ๆ แตกกระเด็นเป็นเสี่ยง ๆ ไปยังทิศทางต่าง ๆ*ตูมตูม* เศษหินสองก้อนที่แตกกระเด็นมาโดนที่แขนของเนี่ยลี่ ทำให้มีเลือดไหลกระฉูดออกมาจากแขนของเขา
           

          มันรัวกำปั้นที่อกและกระทืบเท้า และหลังจากนั้นอีกครั้งมันเหวี่ยงแขนมาที่เนี่ยลี่และกระแทกลง
           


        เนี่ยลี่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขาจำได้แล้วว่าจุดไหนคือจุดที่อ่อนแอที่สุดของพวกวานรยักษ์ฟ้า เมื่อนั้นพลังวิญญาณได้ถูกปล่อยออกมาจากตัวของเขาและเขาสามารถรับรู้ได้ทันทีถึงจิตวิญญาณที่อยู่ลึกข้างในความคิดของเจ้าวานรยักษ์ฟ้านี้ พลังวิญญาณของเจ้าวานรยักษ์ฟ้านี้คล้ายกับเยื่อบาง ๆ ที่ห้อหุ่มหัวมันไว้
           

       “ระเบิด” เนี่ยลี่ตะโกนอย่างรุนแรง พลังวิญญาณของเขาทั้งหมดรวมตัวกันเป็นจุดเดียวและกระแทกเข้าใส่จิตวิญญาณของเจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณตนนี้
           

บูม !
           

       พลังวิญญาณของมันนั้นสั่นไหวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และการเคลื่อนไหวของมันก็ถูกหยุดไปด้วย
           


         เนี่ยลี่รู้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่มือสำหรับเจ้าอสูรร้ายประเภทนี้ และอีกอย่างเขาพึ่งก้าวมาสู่ระดับบรอนซ์สองดาว แม้กระทั่งดาบก็ไม่สามารถที่จะทะลุผ่านผิวหนังของอสูรร้ายระดับนี้ได้ ดังนั้น เขาสามารถใช้ได้เพียงพลังวิญญาณเพื่อโจมตีมัน และอาศัยโอกาสที่เจ้าสัตว์อสูรนี้มึนงงอยู่ เนี่ยลี่กระโดดหนีและมุ่งหน้าอย่างเร็วเข้าไปในป่า
           

        เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณนั้นไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เมื่อมันยอมให้พลังวิญญาณของเนี่ยลี่กระแทกเข้ากับวิญญาณที่อยู่ในความคิดของมัน ส่งผลให้จิตใจของมันมึนงง มันพยายามสั่นหัวอย่างไม่ยอมหยุดและในท้ายที่สุดดวงตาที่สับสนของมันเริ่มชัดเจนขึ้น มันหลุดออกจากภาวะสับสนได้
           


       เมื่อมันสามารถมองได้ชัดเจน เนี่ยลี่ก็ได้หนีไปแล้ว
           


          เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณคำรามอย่างดุร้ายและมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเนี่ยลี่ มันเหมือนกับสายฟ้าที่พุ่งผ่าน ต้นไม้ทั้งหมดที่ขวางทางมันทั้งหมดถูกผลักและได้กระเด็นลอยไป
           

          มันวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเนี่ยลี่ได้เห็นระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าสัตว์อสูรตนนี้ใกล้เข้ามา จิตใจของเขาเริ่มเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะซ่อนภายในบริเวณป่าหนาทึบแห่งนี้แล้ว เพียงแต่เมื่อเนี่ยลี่กำลังจะวิ่งออกจากป่า กลุ่มของบุคคลกลุ่มหนึ่งได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขากลุ่มนี้สวมชุดคลุมดำยาว ใบหน้าของพวกมันถูกคลุมอย่างมิดชิด มีเพียงส่วนหนึ่งของคางเท่านั้นที่โผล่ออกมา สัตว์อสูรทมิฬปรากฏทีชุดด้านหลังชุดคลุมนั้นทำให้รู้สึกเหมือนเป็นลางร้ายที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
           

           ตาของพวกมันมองมาที่เนี่ยลี่ และแปลกใจเล็กน้อย เด็กน้อยแบบนี้มาทำอะไร ณ ที่แห่งนี้กัน ยิ่งไปกว่านั้น เด็กนี่ทำอย่างไรถึงสามารถมารอดถึงที่แห่งนี้ได้ ? พวกเขาตามมาที่นี่เพราะได้ยินเสียงคำรามของวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณและกำลังค้นหาร่องรอยของคณะเซิ่นหลินเจี่ยน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คิดว่าจะมาวิ่งมาเจอเนี่ยลี่ ที่นี่
           

            เมื่อมองชุดที่พวกนั้นใส่ ความหวาดหวั่นปรากฏฉับพลันที่ดวงตาของเนี่ยลี่ เขาสามารถจำกลุ่มคนที่สวมชุดคลุมดำยาวนี้ได้ พวกมันกลุ่มนี้เป็นเรื่องเลวทรามที่สุดของเมืองกลอรี่ เป็นกลุ่มที่ชั่วร้ายที่สุดสมาคมทมิฬ
           

           “เจ้าเด็กน้อยคนนี้อาจเป็นลูกหลานของตระกูลชั้นสูง จับตัวมัน !” ผู้นำกลุ่มหยุนหัว ฉีชี่ ตะโกนสั่ง คนสองคนในชุดคลุมดำไปอยู่รอบ ๆ ตัวเนี่ยลี่ เมื่อมองเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว เนี่ยลี่แสดงท่าทียิ้มประหลาดออกมา

           
และเสียงดังรอบ ๆ ได้ยินขึ้น !
           


        พื้นดินที่พวกเขายืนอยู่สั่นไหวอย่างแรง เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณพุ่งออกมาจากป่าทึบ คำรามและพุ่งเข้ามาที่เนี่ยลี่
           

           เนี่ยลี่วิ่งหลบในทันที พวกเขามุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ซึ่งกลุ่มชายชุดคลุมดำยืนอยู่
           

        เมื่อมองเห็นวานรยักษ์ฟ้าระดับผสานวิญญาณพุ่งเข้าใส่ พวกสมาคมทมิฬจัดรูปแบบตั้งรับในทันที และเตรียมพร้อมยืนหยัดการเข้ามาปะทะของเจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณตนนี้
           

          เจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณคำราม มันสังเกตุที่กลุ่มคนเหล่านี้และคิดว่าพวกนั้นเป็นกลุ่มที่มากับเนี่ยลี่ เจ้าสัตว์อสูรผสานวิญญาณวานรยักษ์ฟ้ากระโดดขึ้น และจู่โจมมาที่เนี่ยลี่ เมื่อเห็นว่ามันใกล้จะถึงตัวเขา เนี่ยลี่รีบกระโดดไปด้านข้าง แต่อุ้งมือของมันได้ข่วนเข้าที่หลังของเขา เขารู้สึกเหมือนว่าหลังของเขากำลังลุกเป็นไฟจากอากาศที่เคลื่อนตัวรวดเร็วผ่านหลังของเขา
           

           โชคดีที่การตอบสนองของเนี่ยลี่ไวพอ ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกโจมตีตรง ๆ แต่อย่างไรก็ตามเนี่ยลี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
           


            เจ้าสัตว์อสูรปีศาจผสานวิญญาณวานรยักษ์ฟ้าหมุนตัวไปยังกลุ่มคนชุดคลุมดำหลังจากที่มันพลาดการโจมตีเนี่ยลี่
“ฆ่ามัน” หยุนหัว ฉีชี่ ตะโกนเสียงดัง กลุ่มคนชุดคลุมดำเงื้อดาบของเขาไปยังเจ้าวานรยักษ์ฟ้าผสานวิญญาณ
           

ตูมม ตูมม ตูมม! การต่อสู้อย่างหนักหน่วงเริ่มต้นขึ้น
           


         เมื่อได้มองเห็นการต่อสู้ระหว่างเจ้าสัตว์อสูรผสานวิญญาณวานรยักษ์ฟ้ากับพวกสมาคมทมิฬเริ่มต้นขึ้น เนี่ยลี่รู้สึกโล่งอกและรอยยิ้มปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากของเขา “ข้าขอมอบเจ้าสัตว์อสูรผสานวิญญาณวานรยักษ์ฟ้าให้เป็นของขวัญแก่พวกเจ้าแล้วกันนะ! ข้าจะขอล่วงหน้าไปก่อน”โดยที่พยายามไม่สนใจบาดแผลที่
เกิดขึ้นบนร่างกายของเขาเนี่ยลี่กระโดดเข้าไปสู่ด้านในของป่า
           


         กำลังของเจ้าสัตว์อสูรผสานวิญญาณวานรยักษ์ฟ้านั้นแข็งแกร่งมาก กลุ่มคนที่มาจากสมาคมทมิฬนั้นไม่สามารถจัดการมันได้ในระยะเวลาอันสั้นและทำได้เพียงแต่มองที่เนี่ยลี่ที่ได้วิ่งหนีไป
           

          ใบหน้าของหยุนหัว ฉีชี่เป็นสีแดง เขาได้ถูกหลอกโดยเด็กน้อยคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่สุดจะทนได้
           

          ระหว่างวิ่งไปนั้น ทันใดนั้นเนี่ยลี่ได้เห็นรูปร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่พุ่มไม้ ถ้ามันไม่ใช่เอียจื่ออวิ๋นแล้วจะเป็นผู้ใดกันเล่า?
           

“ทำไมเจ้าถึงยังคงอยู่ที่นี่ ?” เนี่ยลี่ถามด้วยหน้าตาไม่พอใจ เอียจื่ออวิ๋นไม่ได้ฟังคำของเขาและออกมา
           

“ข้าเป็นห่วงมากว่าเจ้าจะตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นข้าจึงคอยเตรียมพร้อมอยู่ข้าง ๆ เพื่อสนับสนุนเจ้า”
           


         นางมองไปที่บาดแผลบนร่างกายของเนี่ยลี่และใบหน้าของนางแสดงออกถึงความรู้สึกเป็นกังวลเนี่ยลี่รู้ดี ณ ขณะนี้ เอียจื่ออวิ๋นไม่ได้มีความรู้สึกต่อเขาเป็นพิเศษแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการ์อันตราย นางกลับมาและไม่ได้จากไปไหน สิ่งนี้ทำให้เนี่ยลี่ระลึกได้ถึงความหลังว่าสิ่งใดที่ได้เคยเกิดขึ้นเมื่อชีวิตที่แล้วของเขา หลังจากที่เมืองกลอรี่ถูกทำลาย เขาติดตามกองกำลังใหญ่มุ่งหน้าออกไป มีตอนหนึ่งนั้นเขาอ่อนแอมากและใกล้ที่จะตาย เป็นเอียจื่ออวิ๋นที่กลับมาและได้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้
           

          ลักษณะที่นางปฏิบัติต่อเนี่ยลี่แม้ว่าเป็นตระกูลชั้นสูงในตอนนั้นประทับใจเนี่ยลี่มาก
           

            หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองเริ่มติดต่อกันมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างความแข็งแรงของพวกเขาอยู่มาก ทั้งคู่ต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน
           

          เนี่ยลี่เพียงแค่ย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในหัวใจของเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
           


      “พวกเราต้องออกจากที่นี่ทันที ไม่เช่นนั้นกลุ่มเหล่านั้นจะจับพวกเราได้”
           
           

             “กลุ่มคนเหล่านั้น ?” เอียจื่ออวิ๋นนิ่งไปชั่วขณะ
           

            “มันคือสมาคมทมิฬ พวกมันกำลังจัดการกับเจ้าสัตว์อสูรวานรยักษ์ฟ้า” เนี่ยลี่พูดในขณะที่จับมือของเอียจื่ออวิ๋นและวิ่ง
           


             พวกเขาทั้งสองกำลังวิ่งเข้าสู่ป่า โดยมือนางถูกดึงโดยเนี่ยลี่ แก้มของเอียจื่ออวิ๋นเป็นสีแดงระเรื่อ นางพยายามที่จะสลัดมือแต่ไม่สามารถที่จะสลัดให้หลุดได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่ยอมให้เนี่ยลี่ทำในสิ่งที่เขาต้องการ


           เอียจื่ออวิ๋นเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หน้าของเนี่ยลี่ นางไม่รู้ว่าเนี่ยลี่นั้นจับมือโดยคิดอะไรกับนางอยู่หรือไม่ ตั้งแต่เด็ก นี่เป็นครั้งแรกที่มือของนางถูกจับและจูงโดยผู้ชาย ความร้อนที่ฝ่ามือของเนี่ยลี่ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
           


           ทั้งสองยังคงวิ่งต่อไปและมุ่งไปสู่สถานที่ซึ่งเป็นจุดนัดพบ ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลง เสียงคำรามของสัตว์อสูรยังคงได้ยินเป็นบางครั้งจากส่วนที่ลึกเข้าไปภายในป่า ทำให้สถานที่แห่งนี้มีบรรยากาศที่น่ากลัว ณ ตอนนี้ ภายในป่าที่ไกลออกไป


       
         น้ำตาของฮูเหยียนหลานเร่อไหลร่วงลง นางหันหลังกลับและตามหาเนี่ยลี่อยู่เป็นชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถหาร่องรอยของเขาได้เลย เมื่อฟ้าเริ่มมืดลง นางสามารถทำได้เพียงตามกลุ่มคนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดพบ
           

            ก่อนหน้านี้เมื่อนางประกาศว่านางต้องการจะไล่ตามจับเนี่ยลี่ มันเป็นเรื่องปกติเพราะนางไม่เชื่อว่าเนี่ยลี่จะไม่ชอบนางและไม่ต้องการรู้สึกเหมือนเป็นผู้แพ้ นางคิดแม้กระทั่งว่านางจะโยนเนี่ยลี่ทิ้งหลังจากที่เขาตกหลุมรักนางแล้ว เพื่อทิ้งให้เขาร้องไห้และอ้อนวอนต่อนาง


           จนกระทั่ง เนี่ยลี่ได้สละชีวิตของตัวเขาเองเพื่อคอยระวังหลังให้แก่นาง หลังจากนั้นนางตระหนักได้ว่านางไม่มีความตั้งใจเกี่ยวกับความคิดเหล่านั้นของนางอีกต่อไป ตอนนี้นางต้องการเพียงให้เนี่ยลี่ปลอดภัยกลับมา
           

             อย่างไรก็ตาม เนี่ยลี่นั้นได้สละชีวิตของเขาเองนั้นเพื่อปกป้องไม่ใช่เฉพาะนางคนเดียว แต่รวมถึง เอียจื่ออวิ๋นด้วย แต่ฮูเหยียน หลานเร่อ ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นแม้แต่น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น