วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทที่ 26 รูปลักษณ์แห่งจิต

บทที่ 26 รูปลักษณ์แห่งจิต


‘เสี่ยวยี่’จ้องมองไปยัง’เสี่ยวหนิงเอ๋’
“นั่นมันไม่ใช่ข้ออ้าจใช้หรือไม่?”
‘เสี่ยวยี่’ลุกขึ้นยืนและมองไปยัง’เสี่ยวหยุนเฟย’.พ่อลูกคู่นี้คงซ่อนอะไรบางอย่างอยู่
คิ้วของ’เสียวหนิ๋งเอ๋อ’กระตุกเล็กน้อย และจ้องมองไปยัง’เสี่ยวยี่’และกล่าวว่า
“ท่านลุงสิ่งที่ฉันพูดไม่ถูกต้องอย่างไร?ฉัน เสี่ยวหนิงเอ๋อ ขอสาบานต่อสรรค์ชั้นฟ้าว่าทุกคำที่ฉันพูดนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องจริง!”
หลังจากได้ยินคำพูดของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’,’เสี่ยยี่’ไม่ค่อยจะเชื่อถือและเข้าใจการกระทำของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’.และ’เสี่ยวยี่’ยังพูดต่อเบาๆอีกว่า
“ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนของหลานหนิงเอ๋อ แล้วทำใมไม่ไปพูดและขอหญ้าหมอกม่วงคืนมาล่ะ?”
หลังจาก ได้ยินคำพูดของ’เสี่ยวยี่’ ทำให้’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’อารมณ์เปลี่ยนทันที
“ท่านลุงท่่านหมายความว่าอย่างไร?เขาเป็นคนที่ถามเพื่อที่จะซื้อหญ้าหมอกม่วงจากหลาน.และจะให้หลานไปถามซื้อคืนจากเขา ไม่ใช่หลานนั้นกลายเป็นคนสับปลับหรอกรึ?”
“เรื่องนี้มันเกี่ยวพันเกี่ยวกับความอยู่รอดของตระกูล!”
‘เสี่ยวยี่’พยายามโต้เถียง
“ผู้อาวุโสเสี่ยว,ขอให้หยุดพูดเรื่องนี้ก่อน ถึงแม้เราจะไปขอคืนจากเขา ก็ใช้ว่าเขาจะคืนให้เราง่ายๆ”
‘เสี่ยวหยุนเฟย’พูดและมองไปยัง’เสี่ยวยี่’,เขาไม่อยากที่จะให้’เสี่ยวยี่’กับ’เสี่ยวหนิ๋งเอ๋อ’ทะเลาะกันในเรื่องนี้
“ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนั้น,ก่อนอื่นเราต้องสืบดูภูมิหลังก่อนว่าเขาเป็นมาเช่นไร”
‘เสี่ยวยี่’คำราม และยังพูดต่ออีกว่า
“หากภูมิหลังของเขานั้นอยู่ในตระกูลที่มิได้มีอำนาจเหนือกว่าพวกเราหล่ะก็การจะแย่งชิงหญ้าหมอกม่วงคืนมาทั้งหมดก็มิใช่เรื่องยากนักหรอก”
ได้ยินสิ่งที่’เสี่ยวยี่’กล่าวออกมาทำให้ความโกรธของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’เริ่มที่จะมากขึ้น.[เทคนิคมังกรเหินวายุอสนี] ภายในตัวเธอนั้นไม่สามารถหยุดมันได้อีกแล้ว มันเริ่มจะส่ายระกระเพื่อมอย่างรุนแรงในเขตแดนวิญญาณของเธออย่างต่อเนื่อง เสี่ยงลมและสายฟ้าเริ่มที่จะระเบิดออกมาจากท้องฟ้า,รัศมีพลังวิญญาณพุ่งออกมาแพร่กระจายออกมาไปทั่วทิศทั้ง4
เวลาเพียงชั่วครู่ ที่เกิดจากความรู้สึกทางอารมณ์ที่รุ่นแรง ก่อให้เกิดแรงกดดันพุ่งขึ้นมา.ดูดเหมือนว่าเขตแดนวิญญาณของเธอเริ่มที่จะมีการเปลี่ยนรูปร่าง
“เกิดอะไรขึ้น?”
เกิดอะไรขึ้นกับ’เสียวหนิงเอ๋อ’  ‘เสี่ยวหยุนเฟย’ตาเบิกกว้างมองไปยัง’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ด้วยความประหลาดใจ นางเพิ่งจากก้าวเข้าสู่ 1 ดาวทองแดงไม่นาน ทำใมถึงได้มีพลังวิญญาณที่ทรงพลังอย่างนี้? แม้แต่ข้าผู้ที่เป็นถึงร่างทรงอสูรระดับโกลยังรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลเลย
‘เสี่ยวยี่’จ้องมองไปยัง’เสี่ยวหนิงเอ๋’ด้วยความประหลาดใจ.นั้นมันเทคนิคบ่มเพาะวิญญาณอะไรกัน?ทำใมถึงช่างรุ่นแรงไม่เหมือนกับมีระดับแค่ระดับทองแดง 1 ดาวเลย
แสงต่างๆที่ไหลพรั่งพรูออกมาโดยมี’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’เป็นศูนย์กลาง แรงจิตวิญญาณเป็นริ้วราวกับริบบิ้นโบกรายล้อมเธอราวกับเธอเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์.ทำให้เธอดูราวกับว่าเป็นนางฟ้ามาจุติเลยทีเดียว แรงวิญวิญต่างๆค่อยๆเข้มข้นขึ้นและรวมตัวกันที่ด้านหลังของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ รูปร่างคล้ายปีกคู่สวยใส
“รูปลักษณ์แห่งจิต”
เห็นฉากนี้แล้ว ทั้งเ’สี่ยวยี่’และอาวุโสทั้งหมดถึงกับลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของพวกเขาซึ่งหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความตกใจอย่างมาก
แม้แต่ ‘เสี่ยหยุน เฟย’นั้นถึงกับตกใจกับเหตุการร์นี้เลยทีเดียว เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าการบ่มเพาะพลังของลูกสาวนั้นจะเป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ถึงกับสามารถทำให้พลังวิญญาณแสดงออกมาเป็นรูปลักษณ์ได้
รูปลักษณ์แห่งจิตนั้น เป็นการบังคับพลังวิญญาณให้บริสุทธิ์ที่สุด ร่างทรงอสูรนั้นในการสร้างรูปลักษณ์นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากและโดยปรกติจะสามารถทำได้แต่ร่างทรงอสูรอัจยริยะระดับทองขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถจัดการกับเขตแดนวิญญาณและสามารถบังคับให้เกิดรูปลักษณ์ได้
แต่หากร่างทรงอสูรที่สามารถทำเช่นนั้นได้แล้วถือว่าเป็นสิ่งที่มีประสิทธิ์ภาพมากและ ความสำเร็จในอนาคตนั้นเป็นที่แน่นอนเลยทีเดียวอย่างน้อยสุดสามารถไปได้ถึงระดับทองคำดำเลยและอาจสามารถไปได้ถึงระดับตำนานได้เลยทีเดียว
‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ยกศีรษะของเธออย่างเมินเฉยและมองไปยัง’เสี่ยวยี่’ด้วยความมั่นคงและกล่วว่า
“สหายผู้นั้นเป็นผุ้มีพระคุณของข้า หากอาวุโส เสี่ยวยี่จะทำร้ายเขาหล่ะก็..แม้ต้องและด้วยชีวิตข้า ข้าก็จะหยุดผู้อาวุโสให้จงได้!.”
การแสดงออกของ’เสียวหนิงเอ๋อ’ นั้นช่างเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก สิ่งที่เธอพูดช่างดูมีพลัง และทิ่มแทงเข้าไปในจิตใจของผู้คนยิ่งนัก
อันดับทองแดงสามารถสร้างรูปลักษณ์แห่งจิต มันเป็นการพิสูจน์แล้วว่าเธอนั้นเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างมากมาย.และยังมีอายุแค่เพียง 13 ปีเท่านั้น ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมีความเร็วในการบ่มเพาะพลังเป็นที่น่าตกใจ ในไม่อีกกี่ปีเธออาจจะไปถึงระดับเงิน หรือระดับทอง หรืออาจจะสูงกว่านั้นก็เป็นได้
‘เสี่ยวยี่’สะดุ้ง ตามกฏของตระกูลนั้น,’เสี่ยวหนิงเอ๋’ได้แสดงให้เห็นในความสามารถในการสร้างรูปลักษณ์แห่งจิต ตั้งแต่นี้เธอสถานะของเธอยิ่งจะยิ่งสูงกว่าเดิม โดยพรสวรรค์ของเธอนั้นสูงยิ่งกว่า’เสี่ยวหยุนเฟย’ พ่อของเธอซะอีก
ในคำสอนของบรรพบุรษครอบครัวปีกมังกรนั้น ไม่ว่าอยู่ในสถานะใด หากแสดงความอัจฉริยะในการต่อสู้ระดับสูงในครอบครับแล้ว ถ้ามีเขตแดนวิญญาณสีฟ้าหรือฟ้าเข้มแล้ว ครอบครัวจะต้องสนับสนุนพวกเขาทุกอย่างและให้ความสำคัญต่อพวกเขาอย่างดีที่สุด.เพราะว่าหากมีอัจฉริยะเกิดขึ้นแล้วซึ่่งจะเหมือนมีคนนำพาตระกูลขึ้นไปสู่ความรุ่งเรื่องและจุดสูงสุด
แม้ว่า’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’จะมีเขตแดนวิญญาณเป็นสีเขียว แต่เธอนั้นสามารถสร้างรูปลักษณ์แห่งจิตวิญญาณได้ ซึ่งเป็นที่หายากยิ่งกว่าเขตแดนวิญญาณสีฟ้าซะอีก
เพราะในประวัติศาสตร์จำนวนมากนั้นคนที่มีเขตแดนจิตวิญญาณสีฟ้าจะสามารถเป็นร่างทรงอสูรระดับทองเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับคนที่สามารถสร้างรูปลักษณ์แห่งจิตได้ ความสำเร็จของพวกเขานั้นไม่เคยมีระดับต่ำกว่าระดับทองเลยทีเดียว
เมื่อตระกูลได้รับการยืนยันว่า สมาชิกรุ่นใหม่นั้นเป็นอัจฉริยะ ทั้งตระกูลก็จำเป็นที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อปูทางไปยังอนาคต
กลุ่มของผู้อาวุโสมองหน้ากัน และแม้แต่ผู้อาวุโส 2 คนที่ไม่ค่อยจะลงลอยกับ’เสี่ยว หยุนเฟย’ ยังไม่ลังเลเลยที่จะเห็นด้วยกับเขา
“หนิงเอ๋อ เป็นเพียงอันดับทองแดงแล้วยังสามารถสร้างรูปลักษณ์แห่งจิตได้ อนาคตข้างหน้าเจ้าต้องประสบความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาแน่นอน”
“ขอแสดงความยินดีกับท่านหัวหน้าตระกูลด้วย,ขอแสดงความยินดีกับหลานหนิงเอ๋ด้วย.ครอบครัวปีกมังกรของเราในที่สุดก็มีวันนี้ซักที”
แม้แต่ผู้อาวุโสบางคนที่อยากให้’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’มอบหญ้าหมอกม่วงมาให้ ก็ยังเผยรอยยิ้มบนใบหน้าและอดไม่ได้ที่จะแสดงความยินดีและยกย่องในตัวเธอ ความสามารถของ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ที่เผยออกมาให้เห็นนั้น เป็นที่ตกใจอย่างมาก ไม่มีใครสามารถจะจิตนาการได้เลยว่าใจมีสิ่งใดเกิดขึ้นในเมือ’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’เติบโตขึ้น
ได้ยินคำสรรเสร็ยจากผู้อาวุโสหลายๆคน,’เสี่ยวหยุนเฟย’รู้สึกมีความสุขและหัวเราะออกมา
“แล้วจะเอายังไงกับข้อตกลงเรื่องแต่งงานกับครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์ดี?”
‘เสี่ยวยี่’พึมพัม ในฐานะที่’เสี่ยวหยุนเฟย’มีลูกสาวแค่คนเดียว ถ้า’เสียวหนิงเอ๋’แต่งงานกับครอบครัวศักดิ์แล้ว,’เสี่ยวยี่’จะสามารถขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนต่อไปได้ แต่สถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดไว้อีกต่อไป
“เสี่ยวยี่ ,เรามอบลูกหลานอันอัจฉริยะให้แต่งงานกับตระกูลศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะทำให้ครอบครัวเรากลับมาเหมือนเดิมยังงั้นรึ?”
ผู้อาวุโสอีกคนโต้แย้งไป ถ้า’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ต้องแต่งออกไปอยู่ตระกูลศักดิ์สิทธิ์,เธอก็จะกลายเป็นคนของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ซิ.แล้วก็จะไม่มีส่วนใดกับตระกูลปีกมังกรอีกต่อไป,ถ้าอย่างงั้นเราต้องไม่ให้เกิดเหตการณ์อย่างนั้นขึ้น
‘เสี่ยวยี่’รู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าเดิมเมื่อความคิดเห็นของผู้อาวุโสหลายคนเกี่ยวกับตำแหน่งผู้นำตระกูลของ’เสี่ยวหยุนเฟย’ หลังจากที่’เสี่ยวหนิงเอ๋อ’แสดงความสามารถของเขาให้เห็นทำให้บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายเลือกที่จะยังสนับสนุน’เสี่ยวหยุนเฟย’เป็นผู้นำตระกูลต่อไป
“กับข่าวที่น่ายินดีเช่นนี้ของหนิงเอ๋อนั้น เกี่ยวกับหญ้าหมอกม่วงก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นอีกต่อไป”
ผุ้อาวุโสอีกท่านหนึ่งพูดพลางหัวเราะ ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’นั้น รู้สึกประหลายใจเล็กน้อยทำใมความคิดเห็นของผู้อาวุโสทั้งหลายถึงได้เปลี่ยนไป
ก่อนหน้านี้ภายใต้ความรู้สึกที่ไม่สามารถอดทนได้,พลังจิตวิญญาณของเธอก็พุ่งถึงจุดเดือด,ทำให้พลังวิญญาณของเธอสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปในที่สุด,ถ้าเธอไม่ได้บ่มเพาะพลังด้วยเทคนิคมังกรเหินวายุอสนี,’เสียวหนิงเอ๋อ’นั้นคงจะไม่สามารถแสดงพรสวรรค์เกี่ยวกับจิตวิญญาณได้.
ถึงแม้ว่าการบ่มเพาะพลังมังกรเหินวายุอสนี โอกาสที่จะขึ้นรูปลักษณ์ของพลังจิตนั้นก็ถือว่ายังต่ำอยู่ดี ‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’นั้นจริงๆแล้วสามารถนับได้ว่ามีพรสวรรค์ที่สูงเลยทีเดียว
‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’นั้นยิ่งรู้สึกขอบคุณ’เนี่ยหลี่’ ถ้าไม่ได้มีเขา ก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะออกมาในรูปแบบนี้อยู่รึป่าว
“เกี่ยวกับครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกเรามิอาจจะต่อต้านกับพวกเขาได้ในตอนนี้.แต่ยังมีเวลาเหลืออีก 2 ปีจนถึงวันหมั้นหมาย พวกเราค่อยมาหารือกันอีกทีเถอะ”
‘เสียวหยุนเฟย’ พูดพรางหัวเราะออกมา.ถึงแม้เขาจะเป็นผุ้นำตระกูลแต่เขานั้นยังจำเป็นที่จะต้องได้รับความเห็นจากผุ้อาวุโสคนอื่นๆก่อน,ถึงอย่างไร วันนี้เขาก็สามารถหายใจได้ทั่วปอดตั้งแต่’เสียวหนิงเอ๋อ’แสดงความสามารถซึ่งก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
“หนิงเอ๋อ พลังวิญญาณของเจ้าตอนนี้เป็นเท่าไหร่รึ?”
‘เสี่ยวหยุนเฟย’ ถาม
“ครั้งล่าสุดที่ข้าทดสอบอยู่ที่ 105 ค่ะ”
‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ตอบ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่สามารถสร้างรูปลักษณ์แห่งจิตได้นั้นพลังวิญญาณของเธอดูจะเติบโตและแข็งแกร่งมาก”
“งั้นนำ ผลึกวิญญาณออกมาและทดสอบมันอีกครั้งซิ!”
‘เสี่ยวหยุนเฟย’ ยิ้มเบาๆ
‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ได้นำผลึกวิญญาณออกมาและฉีดพลังวิญญาณของเธอเข้าไปในคลิสตัล ผลึกวิญญาณนั้นเริ่มที่จะส่องแสง แพรวพราวและสดใสมากขึ้น และยังได้ยินเสียงลมและฟ้าร้องอีกด้วย
แต่’เสี่ยวหยุนเฟย’และทุกคน เริ่มที่จะจ้องมองเพื่อที่จะดูความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณ
“พลังวิญญาณแห่งจิต 362!?”
ไม่ว่าจะเป็น’เสี่ยวหยุนเฟย’ หรือแม้แต่ผู้อาวุโสอื่นๆ ทั้งหมดต่างอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา ‘เสี่ยวหนิงเอ๋’นั้นมีพลังวิญญาณแค่ 105 และแค่ไม่กี่วันมานี้สามารถไปได้ถึง 365? ไปถึงระดับ 3 ดาวทองแดงเรียบร้อยแล้ว?
“ความเป็นจริงนั้นคนทีเป็นอัจฉริยะย่อมที่จะสามารถเข้าใจได้ในรูปลักษณ์แห่งจิต”
ผู้อาวุโสทั้งหมดรู้สึกประหลายใจและดีใจกันมาก มีเพียงแค่’เสียวยี่’ เท่านั้นที่สีหน้าค่อนข้างมืดมน
‘เสียวหนิงเอ๋อ’รุ้สึกประหลาดใจมากกับผลที่ออกมา เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าพลังวิญญาณของเธอจะเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีนี้นั้น ผู้อาวุโสในครอบครัวเธอจะไม่สามารถบังคับให้เธอแต่งงานกับครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป คิดไปอีกทีเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น’เนี่ยหลี่’เป็นคนที่มอบให้กับเธอ,ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะห้ามความรู้สึกชุ่มชื่นฝันหวานในหัวใจของเธอ
‘เสี่ยวหนิงเอ๋อ’ กำหมัดของเธอแน่น เธอจะต้องฝึกอย่างหนักอีกต่อไป โดยเฉพาะความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถต้านทานกับตระกูลเทพศักดิสิทธิ์ได้และเธอจะต้องไม่ต้องแต่งกับ’เสิ่นเฟย’
ในคืนที่เงียบสงัด
‘เนี่ยหลี่’ตอนนี้นั่นกำลังนั่งบ่มเพาะพลังโดยการนั่งไขว่ห้างอยู่ เขาค่อยๆเปี่ยมด้วยสมาธิ และเขตแดนวิญญาณของเขานั้นเริ่มที่จะนิ่งและสงบ
การบ่มเพาะเทคนิคเทพวิถึฟ้านั้น พลังวิญญาณรอบๆเริ่มที่จะมารวมตัวในร่างกาย’เนี่ยหลี่’และยังคงเติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เสียงสายลมพัดผ่าน ช่างเป็นคืนที่เงียบสงบเป็นอย่างมาก
ภายใต้การบำเพ็รของ’เนี่ยหลี่’นั้น แรงดันวิญญาณของเขาเริ่มที่จะหมุนรอบตัว กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเริ่มที่จะสั่นสะเทือนเป็นจังหวะและความแข็งแกร่งก็เริ่มที่จะเติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเหมือนดังเส้นลวดที่เริ่มตึงแล้วจะแข็งแรง นี่เป็นผลจากเทคนิคการบ่มเพาะพลังเทพวิถีฟ้า เป็นเทคนิคที่เสริมสร้างทั้งร่างกายและพลังวิญญานไปพร้อมๆกัน
‘เนี่ยหลี่’จะหยุดบ่มเพาะพลังหลังเที่ยวคืนเสมอเขาจะทำอย่างนี้จนเขตแดนวิญญาณของเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอ มิเช่นนั้นแล้วการฝึกในช่วงหลังเที่ยงคืน จะเกิดผลข้างเคียงกับเขา
เขาได้นำเอาผลึกคริสตัลทดสอบออกมา หลังจากทดสอบพลัง.พลังวิญญาณของเขานั้นตอนนี้อยู่ที่ 82.ดูเหมือนว่าการฝึกไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นจะพัฒนาไปในทิศทางที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เขามองออกไปข้างนอก,เขาก็เห็นเงาของคน 4 คนที่กำลังกลับมาจากการลาดตระเวณ
ทันใดนั่นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงร่องรอยแปลกๆ ดูเหมือนเป็นชนิดของสัตว์ปิศาจบางหย่าง จากสันชาตญาณของเขาเข้าได้ลุกขึ้นยืนในทันที
มันคงเป็นสิ่งที่น่าหนักใจเป็นอย่างมากหากที่พักถูกการโจมตีของสัตว์ปิศาจ
‘เนี่ยหลี่’เข้าใจในทันที และเดินเข้าไปในป่าลึก
ที่มาจาก http://tdgnovelthaitranslate.blogspot.com/2016/04/tale-of-demon-and-god-novel-chapter-26.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น