วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทที่ 23 เจ้าพวกฆาตรกร

บทที่ 23 เจ้าพวกฆาตรกร


 ‘เย่จื้อหวิ๋น’รู้สึกกังวลและไม่เข้าใจหลายอย่าง.เธอจึงได้นำเทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้ำแข็ง 9 ชีวิต ซึ่งเป็นเทคนิคที่’เนี่ยหลี่’ได้มอบให้ออกมาบำเพ็ญ เทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้ำแข็ง 9 ชีวิตนั้น เป็นเทคนิคที่ทรงมูลค่ามาก ทำใม’เนี่ยหลี่’ถึงได้เต็มใจที่จะมอบให้กับเธอกันนะ
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์อื่นเธอก็รู้สึกโกรธเขาอยู่เหมือนกัน,อารมณ์ที่รู้สึกขอบคุณและโกรธนั้นผลักกันไปมายากที่จะทำให้เธอใจสงบลงได้
หลังจากเลิกคิดเรื่องใดๆได้แล้ว ‘เย่จื้ออวิ๋น’ก็เริ่มที่จะบำเพ็ญด้วยเทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้ำแข็ง 9 ชีวิต ใจของเธอเริ่มที่จะสงบลงเรื่อยๆ พลังเขตแดนวิญญาณของเธอเริ่มเปล่งประกายและทำให้บริเวณรอบๆเธอนั้นค่อยๆมีน้ำแข็งปกคลุมไปทั่ว
ผิวของ’เย่จื้อหวิ๋น’นั้นผ่องใสดูราวกับหยกเนื้อดีเลยทีเดียว และรวมกับใบหน้าที่งดงาม เปรียบได้กับนางฟ้าลงมาจุติบนแดนดินก็มิปราณ
ด้วยการบำเพ็ญเพียรอย่างต่อเนื่องทำให้สิ่งสกปรกนั้นหลุดออกไปจากร่างกาย,’เย่จื้อหวิ๋น’ร่างกายของเธอตอนนี้นั้นชโลมไปด้วยเหงือทั้นใดนั้นแสงสีฟ้าก็สว่างจ้า ราวกับดอกบัวกลังแผ่กลีบขนาดใหญ่
เมื่อ’เย่จื้อหวิ๋น’ เปิดตาขึ้นมา เธอพบว่าเทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้ำแข็ง 9 ชีวิต นั้นจะทรงพลังมากกว่าที่เธอคิดไว้ซะอีก ดูเหมือนว่าพลังของเธอในตอนนี้ใกล้จะเข้าใกล้ระดับทองแดง 1 ดาวเรียบร้อยแล้ว ด้วยเทคนิคดังกล่าวคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปถึงในเร็ววัน
เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอเหนียวตัวเหลือเกิน เธอจึงได้ให้แม่บ้านเตรียมน้ำให้เธออาบ กลิ่นหอมที่ปล่อยออกมาจากถังอาบน้ำ ‘เย่จื้ออวิ๋น’ถอดชุดของเธอออกช้าๆ เผยให้เห็นผิวที่กระจ่างใสและงดงาม ปานรูปแกะสลักจากหยกก็ไม่ปาน
หลังจากฝึกเทคนิค ภูติฟินิกซ์หิมะน้ำแข็ง 9 ชีวิต แล้วนั้น ร่างกายของเธอยิ่งทรงเสนห์มากยิ่งขึ้น แม้จะยังไม่ถึงวัยสาวเต็มที่ แต่ก็เห็นความงดงามของเธอสวยงามน่ามอง
เธอก้าวเท้าที่สวยงามของเธอลงไปยังอ่างน้ำ ซึ่งรู้สึกได้ถึงน้ำที่อุ่นและมีกลิ่นหอม หลังจากลงมาแช่ในน้ำทำให้เธอรู้สึกเปี่ยวด้วยความสุข เธอค่อยๆใช้มือลูบไล้ไปยังผิวเนียนของเธอ ผ่านไปยังปทุมถัดด้านซ้ายของเธอซึ่งมีไฝรูปผีเสื้ออยู่
พลางทำให้หัวใจเธอสั่นไหว ไฝรูปผีเสื้อนี้ของเธอมีมาตั้งแต่เธอเกิด มันค่อยๆเลื่อนออกมาให้เห็นเมื่อเธอเริ่มที่จะเป็นสาว แต่ถึงยังงั้น’เนี่ยหลี่’นั้นเคยเห็นไฝของเธอมาก่อนหรือไม่
หรือว่าเค้าจะเคยเข้าแอบมาดูเธอมาก่อนแล้วหรือไม่ ยังงั้นเขาก็เห็นทุกอย่างแล้วสิ ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงแปลกๆอยู่ภายนอก
“ใครนะ?” ใครแอบอยู่ตรงนั้น?”
เธอรีบใช้มือปกปิดปทุมถัดของเธอในทันที หรือจะเป็นเจ้าบ้า ‘เนี่ยหลี่’รึไง
“คุณหนูข้าเอง”
สาวใช้ก็เดินออกมา เธอเริ่มถอนหายใจรู้สึกโล่งอก ขึ้นมาทันที ‘เนี่ยหลี่’นั้นยังไม่แม้จะถึงระดับทองแดง 1 ดาว ทองแดงเขาจะบุกเข้ามาโดยผ่านผู้คุ้มกันของเธอเข้ามาได้อย่างงั้นรึ?
เธอรู้สึกว่าเธอจะระแวงไปเกินไปรึป่าว คงเป็นไม่ได้หรอกที่เขาจะเคยเห็นไฝของเธอได้ แล้วเขารู้ได้อย่างไรกัน?
ค่ำคืนแห่งความเงียบก็ผ่านไป
วันที่ 2 หลังจากนั้น ณ ร้านค้าสมบัติระดับสูง
ที่นี่นับเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีสินค้าระดับสูง มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดเกาะ อาวุธ และม้วนอาคม สถานที่ร้านนั้นตั้งอยู่ห่างจากสถาบันการศึกษากล้วยไม้ศักดิสิทธิ์ไม่กี่ร้อยเมตร
“เถ้าแก่, ข้าต้องการชุดป้องกันระดับทองแดง 1 ชุด และดาบของความเดือดดาลนั่น”
‘เนี่ยหลี่’พูดพลางชี้ไปยังชุดเกาะและอาวุธ
“ชุดเกาะนี้ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ เสื้อ,ถุงมือ,กางเกง,และร้องเท้า ราคาก็ประมาณ 500,000 เหรียญจิตมาร ของเหล่านี้ทำมาจากสัตว์ปิศาจระดับทองแดงระดับสูง ความแข็งแรงของมันนั้นแม้แต่สัตว์ปิศาจระดับเงินธรรมดายังไม่สามารถทำลายมันได้เลยนะ หนุ่มน้อยเจ้าต้องการซื้อมันจริงๆนะรึ?”
“แน่นอน ท่านคิดว่าข้าล้อท่านเล่นอยู่รึไง”
‘เนี่ยหลี่’กวาดมือเอาเงินออกมาช่องว่างมิติจากแหวน
“นี่ เงินจำนวน 700,000 เหรียญจิตมาร อยู่ในการ์ดนี้แล้ว”
“โอเค เลยนายน้อย ข้าจะให้ท่านเดียวนี้ล่ะ”
เถ้าแก่ตาเป็นประกายเลยทีเดียว
“ฉันยังต้องการ เสื้อเกาะ และม้วนอาคม อืม.. ฉันต้องการทั้งหมดนั้นล่ะ ช่วยห่อให้ด้วย”
หลังจากที่’เนี่ยหลี่’ขายหญ้าหมอกม่วงไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้รับเงินมาจำนวนมากมาย การซื้อของเหล่านี้จึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
‘เนี่ยหลี่’นั้นซื้อของจำนวนมากมายในร้านทำให้เถ้าแก่ในร้านยิ้มไม่หยุดเลยทีเดียว การขายของวันนี้ได้กำไรมากกว่าขายทั้งเดือนเลยทีเดียวและ’เนี่ยหลี่’ยังซื้อแหวนมิติพื้นที่ 5-6 ลูกบาศก์เมตร และม้วนอาคมอีกหลายม้วน สำหรับชุดเกาะนั้นเขาได้ทดลองใส่เลยทันทีซึ่งมันมีน้ำหนักเบากว่าที่คิดอีก
“วันนี้ฉันคงต้องเข้าเรียนซักหน่อยเพื่อคืนเงินให้กับเซียวหนิงเอ๋อ”
‘เนี่ยหลี่’คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินไปยังทิศทางของสถานศึกษา จู่ๆก็มีคนจำนวนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากมุมของสถานศึกษา
“สารเลววันนี้ล่ะ ฉันต้องจัดการแกให้ได้”
‘เสิ่นเหย่’คำรามพร้อมมองไปยัง’เนียหลี่’ ชายฉกรรจ์ 6คน เดินออกมาจากข้างหลัง’เสิ่นเหย่’ และเข้ามาล้อม’เนี่ยหลี่’ไว้ ‘เนี่ยหลี่’ยิ้มเล็กน้อย,พร้อมกับมองไปยังกลุ่มคนข้างหน้า
“พวกเจ้าต้องการอะไรรึ?”
‘เนี่ยหลี่’พูดออกไปทำท่าทางว่ากำลังกลัวอยู่
“ขยะชั้นต่ำอย่างเจ้ากลัวเป็นด้วยงั้นเรอะ? เจ้ามิทำตัวจองหองดังที่เจ้าชอบทำ วันนี้แกต้องโดนลงโทษให้สาสม”
‘เสิ่นซิว’ตวาด ลูกน้องหกคนของ’เสิ่นเหย่’ก็พุ่งเข้าไปหา’เนี่ยหลี่’ดังเสือจะเข้าตระครุบเหยื่อ
“จัดการมัน อย่าได้ปราณีจนกว่ามันจะลุกขึ้นมาไม่ได้”
‘เสิ่นเหย่’แสดงถึงความสำราญใจและความดุร้ายออกมา
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันคงต้องสู้”
‘เนี่ยหลี่’กระโดดหลบและถอยออกมาพร้อมกับรวบรวมพลังวิญญาณและ ตะโกนออกไปว่า
“ไอ้พวกฆาตกรตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์กำลังจะฆ่าข้าแล้ว”
เสียงดังไปทั่ว นี่นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะเปิดเผยโฉมหน้าของพวกมัน ‘เนี่ยหลี่’ใช้เทคนิคลับในการตะโกนทำให้มีเสียงดังเหมือนดังฟ้าผ่า ทำให้ได้ยินกันไปทั่ว
“ไอ้บ้าเอ๋ย รีบปิดปากมันเร็วซิ”
ได้ยินเสียงของ’เนี่ยหลี่’ทำให้สีหน้าของ’เสิ่นเหย่’กระตุกเลยที่เดียว เสียงที่’เนี่ยหลี่’ตะโกนนั้นดังไปทั่วสถานศึกษากล้วยไม้ศักดิ์เลยทีเดียว เสียงดังปานหมูกำลังถูกเชือด
ปัง ปัง ปัง
ลูกน้องของ’เสิ่นเหย่’นั้น โจมตีไปยัง’เนี่ยหลี่’ไม่หยุด 3 คนเป็นระดับทองแดงหนึ่งดาว และอีกหนึ่งคน และสองคนเป็นระดับ 3 ดาวและ 2 ดาวตามลำดับ แต่ทั้ง 6 คนก็ยังไม่สามารถทำอันตรายใดๆแก่’เนี่ยหลี่’ได้ ซึ่ง’เนี่ยหลี่’นั้นก็ตะโกนร้องไปเรื่อยๆดังก้องไปทั่วสถานศึกษา
“เจ้าฆาตกร ครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์จะฆ่าข้าแล้ว”
หลังจากทุกคนได้ยินเสียงของ’เนี่ยหลี่’ ทุกคนทั้งโรงเรียนต่างก็ออกมายืนดูที่หน้าต่างเพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งในเวลาต่อมาพวกเขาก็เห็นคน 6 ล้อมรอบ’เนี่ยหลี่’อยู่ ซึ่งมี’เสิ่นเหย่’ยืนอยู่ข้างหลัง
“นั่นมันเจ้า เนี่ยหลี่นี่?”
“ได้ยินว่ามันกำลังโดนตระกูลเทพศักดิ์เล่นงาน”
“ได้ยินว่าที่มันออกมาเปิดเผยความลับเรื่องอาคมแดงเพลิงมีคนอยู่เบื้องหลังนี่ ก็เลยถูกครอบครับตระกูลศักดิ์สิทธิ์เล่นงานนะซิ”
“ครอบครับศักดิ์สิทธิ์ช่างชั่วร้ายจริงๆ ที่จะฆ่านักเรียนที่ไม่มีทางสู้”
“รีบไปรายงานอาจารย์ใหญ่เร็ว”
นักเรียนเริ่มจะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขารู้สึกเห็นใจ’เนี่ยหลี่’ รวมถึงพูดถึงวิธีต่างๆที่’เสิ่นเหย่’กำลังทำอยู่ตอนนี้ ตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์ ช่างกล้านักที่จะฆ่าคนในสถานศึกษากล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ ช่างไม่เกรงกลัวกฏหมายเอาซะเลย
‘เนี่ยหลี่’มองไปยัง’เสิ่นเหย่’ ที่อยู่ต่อหน้าเขา พร้อมยิ้มที่มุมปาก ‘เสิ่นเหย่’ยังเด็กเกินไปที่จะมาต่อกรกับเขา ลูกน้องของ’เสิ่นเหย่’นั้น ไม่สามารถที่จะโจมตีโดนได้เลย เนื่องจากการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของ’เนี่ยหลี่’ และจังหวะที่โดนก็โจมตีโดนไปยังชุดเกาะของ’เนี่ยหลี่’ซึ่งมีความแข็งมาก ทำให้นิ้วหรือกระดูกแตกได้เลยทีเดียว
ขณะหลบการโจมตี ก็ใช้กำปั้นชั้นชกไปยังลูกน้องของ’เสิ่นเหย่’อย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก แม้จะเป็นระดับทองแดง 1 ถึง 2 ดาว แต่เมื่อถูกหมัดความเร็วแสงของ’เนี่ยหลี่’เข้าไป เจ็บเหมือนกับถูกตีด้วยไม้เลยทีเดียว
“เห้ย นี่พวกแกเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวมารึไงกัน พวกนี้เลี้่ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”
‘เสิ่นเหย่’คำราม และเสียงของ’เนี่ยหลี่’นั้นก็ยิ่งดังขึ้นไปเรื่อยๆ ‘เนี่ยหลี่’นั้นไม่ได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ตะโกนบอกว่าครอบครัวเทพศักดิ์เป็นฆาตกรกำลังจะฆ่าเขา ซึ่งเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ‘เสิ่นเหย่’นั้นเริ่มโมโหแทบเป็นบ้า แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถหนีได้
“จัดการมันเร็วๆ ซิ! ไอ้พวกโง่!”
‘เสิ่นซิว’คำราม
ฝั่งลูกน้องของ’เสิ่นเหย่’นั้นเต็มไปด้วยความคับข้องใจ แม้พวกเขาจะโจมตีอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างการบาดเจ็บให้กับ’เนี่ยหลี่’ได้เลย แต่เป็นพวกเขาเองที่บาดเจ็บ นิ้วและกระดูกของพวกเขาแตกและหักแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และหมัดของ’เนี่ยหลี่’ที่โจมตีพวกเขานั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รุนแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่มันกลับทำให้เกิดรอยช้ำไปทั่วตัวพวกเขาเลยทีเดียว
“พวกเจ้ากำลังอะไรกัน…..”
เสียงน่ารักน่าฟัง พร้อมกับรูปร่างผอมสวยของ’เซียวหนิงเอ๋อ’นั่นเอง เขาเข้ามายืนขวาง’เนี่ยหลี่’อยู่ และจ้องมองไปยัง’เสี่ยวเหย่’ ตอนนี้เธอได้ไปถึงระดับ 1 ดาวทองแดงแล้ว และถือกริซพระจันทร์สีน้ำเงิน เตรียมที่จะสู้ทุกเมื่อ
“เสิ่นเหย่ เจ้าจะมากไปแล้วนะ”
อีกเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นพร้อมกับ’เซียวหนิงเอ๋’ รูปร่างที่สะสวยผมบางไม่แพ้กัน ‘เย่จื้ออวิ๋น’นั่นเอง.เธอโกรธและพูดไปยัง’เสิ่นเหย่’
“เสิ่นเหย่ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเยี่ยงนี้”
“เนี่ยหลี่เจ้าไม่เป็นไรนะ?”
‘เย่จื้ออวิ๋น’และ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’พูดขึ้นมาพร้อมกัน ซึ่งทั้งสองแสดงสีหน้าเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการของ’เนี่ยหลี่’ ซึ่งทำให้’เย่จื้ออวิ๋น’รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
“จื้ออวิ๋น คุณกำลังเข้าใจผิด เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น!!”
‘เสิ่นเหย่’พยายามอธิบาย ซึ่งเขามองไป่ยัง’เนี่ยหลี่’ที่ทำหน้าเยาะเขา ทำให้เขาเข้าใจว่ากำลังเลยโดย’เนี่ยหลี่’หลอกอยู่ เขาจึงชี้ไปยัง’เนี่ยหลี่’และพูดว่า
“เจ้าบ้านั่นมันล่อลวงข้ามาที่นี่ ทุกอย่างล้วนเป็นแผนของมัน”
“ห๊า! เสิ่นแหย่เจ้าไม่คิดว่ามันเป็นข้ออ้างที่ปัญญาอ่อนยิ่งนัก”
‘เซียวหนิงเอ๋’รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ในขณะใบหน้าของ’เนี่ยหลี่’ตอนนี้เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา และพูดกับ’เสิ่นเหย่’ว่า
“ข้ายอมรับว่าข้าได้กระทำการล่วงละเมิดตระกูลเทพศักดิสิทธิ นับว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงนัก แต่ถึงกับต้องทำถึงเพียงนี้เชียวรึ ถึงกับจะสังหารข้าภายในสถานศึกษานี้เลยงั้นรึ? นี่เจ้าคิดว่าสถานศึกษากล้วยไม้ศักดิ์สิทธิแห่งนี้เป็นสถานที่ใดกัน แม้ว่าตระกูลข้าจะไม่สูงส่งเท่ากับตระกูลของเจ้า การกระทำที่ไร้ปราณีเช่่นนี้ดูมันจะเกินไปหน่อย แม้ว่าตระกูลของเจ้าจะมีอำนาจวาสนามากมายเพียงใด ด้วยเกียรติของข้าจนกว่าว่าชีวิตนี้จะหาไม่ข้าจะไม่ยอมอันธพาลเช่นเจ้าเป็นอันขาด”
คำพูดของ’เนี่ยหลี่’ที่ถามหาความเป็นทำ ทำให้’เสิ่นเหย่’นั้นเจ็บปวดเจียนตาย หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ‘เซียวหนิงเอ๋อ’และ’เย่จืออวิ๋น’แอบที่จะชื่นชมในตัว’เนี่ยหลี่’ไม่ได้ โดยเฉพาะ’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’นั้นหัวใจของเต็มเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมเนี่ยหลี่เป็นอย่างมาก
“ฉันก็จะไม่ยอมความไม่ชอบธรรมของตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน”
‘เซียวหนิงเอ๋อ’คิดอยู่ในใจ เธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังครอบครัวเทพศักดิสิทธิ์ ในความเห็นของเธอนั้นตระกูลเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตระกูลที่ชั่วร้ายยิ่งนัก เธอรู้สึกเศร้าใจอย่างมากที่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับ’เสิ่นเฟย’ของตระกูลเทพศักดิสิทธิ์

ที่มาจาก http://tdgnovelthaitranslate.blogspot.com/2016/04/tale-of-demon-and-god-novel-chapter-23.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น