วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บทที่ 27 ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง

บทที่ 27 ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง


ในป่านั้นมีพื้นที่ที่มีรัศมี 10 เมตรมีกิ่งไม้จำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ พร้อมยังคงมีกลิ่นของปัจสาวะลอยคลุ้งอยุ่ด้วย ด้วยความยาวของขนซึ่งมีขนาด 2 นิ้ว เห็นสิ่งเหล่านี้เนี่ยหลี่สามารถระบุได้เลยว่าเป็นหมีจิ้งจอก
“นั่นใครนะ?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึนมา
‘เนี่ยหลี่’มองไปยังทิศทางของเสียงและเริ่มปรากฏออกมาจากหลังต้นไม้ เห็นอีกฝ่าน’เนี่ยหลี่’รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเขาคือ ‘เฉินหลินเจียน’พร้อมลูกน้องของเขานั่นเอง และอีกหนึ่งในพวกเขาก็คือ’เสิ่นเหย่’
“ทำใมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
‘เฉินหลินเจียน’มองมาทาง’เนี่ยหลี่’ และถาม
“ขณะที่ข้ากำลังฝึกพลังอยู่นั้น,ฉันได้กลิ่นและร่องรอยแปลกๆลอยมาทางอากาศ ข้าจึงได้ตามกลิ่นนั่นมา”
‘เนี่ยหลี่’พูดพลางกวาดสายตาของเขาไปทาง’เฉินหลินเจียน’และ’เสิ่นเหย่’ ‘เฉินหลินเจียน’กับ’เสิ่นเหย่’นั้นเพียงแค่เป็นคนคุ้นเคยกันเท่านั้นแต่ไม่ใช่พวกเดียวกัน,เป็นเช่นนั้นแล้วเมื่อชาติก่อน เมื่อตระกูลเทพศักดิ์ทรยศเมืองกลอรี่เขาถึงกับลงมือฆ่าคนของตระกูลเทพศักดิ์ไปหลายคนเลยทีเดียว
‘เสิ่นเหย่’มองมาที่’เนี่ยหลี่’ด้วยความเฉยเมยและความมืดมน
กลิ่นแปลกๆ? ทำใมพวกเขาถึงไม่ได้กลินอะไรก่อนหน้านี้?
“เมื่อลูกน้องของฉันกำลังลาดตระเวณอยู่,พวกเค้าพบสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นฉันกับเสิ่นเหย่จึงได้ตามมาดูก”
‘เฉินหลินเจียน’พูด ความสัมพันธ์ของเขากับ’เสิ่นเหย่’นั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว ซึ่งทั้งสองนั้นเป็นทายาทของตระกูลหลักเหมือนกัน การกระชับสัมพันธ์จึงเป็นเรื่องที่ดีในอนาคต
‘เสิ่นเหย่’พูดอย่างเย็นชาว่า
“เจ้าออกมาที่นีในช่วงกลางคืนคนเดียวกำลังแอบทำอะไรอยู่รึไม่?”
‘เสิ่นเหย่’ไม่รอช้าที่จะป้ายสีให้กับ’เนี่ยหลี่’
‘เนี่ยหลี่’ทำท่าล้อเลียนเขา.คำพูดที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนนั้น ถ้าเป็น’เฉินหลินเจียน’ไม่มีทางที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ
‘เฉินหลินเจียน’ มองไปที่’เสิ่นเหย่’ แล้วมองไปที่’เนี่ยหลี่’อีกครั้ง เขาเคยได้ยินความขัดแย้งของทั้งสอง และสำหรับ’เนี่ยหลี่’นั้น เป็นคนที่ไม่มีพื้นหลังอะไรเลยยังกล้าที่จะเผชิญกับครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองหรือที่หยิ่งผยองกันแน่?
“เป็นแค่รังของปิศาจแล้วและได้ถูกทิ้งร้างเป็นเวลานานแล้ว”
‘เสิ่นเหย่’ มองไปยังรอบๆพื้นที่ดังกล่าว หลังจาก’เนี่ยหลี่’ได้เดินทางมาด้วย,เขาแทบจะอดรนทนไม่ได้ทีเดียว.ตั้งแต่การเดินทางเริ่มที่จะไปยังเมืองร้างโบราณกล้วยไม้เขาก็มีวิธีอีกมากมายที่จะใช้ในการจัดการ’เนี่ยหลี่’.การพูดคุยกับ’เนี่ยหลี่’ในที่นี้นั้นเขาจึงพูดเหมือนมันเป็นเรื่องไร้สาระ
“ดูเหมือนว่ารังปิศาจนี้จะเป็นรังที่ไม่ได้ถูกใช้เป็นเวลานานแล้วนะ”
‘เฉินหลินเจียน’กล่าว พร้อมกับพยักหน้าและมองไปยังรอบๆที่มีกิ่งไม้กระจัดกระจายอยู่.ทันใดนั่นเองเขาก็ดุเหมือนจะเห็นอะไรบางสิ่ง.เขาจึงหันมาถาม’เนี่ยหลี่’ว่า
“เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?”
เขาดูเหมือนว่า’เนี่ยหลี่’นั้นจะมีความรู้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
“ที่ด้านข้างของลำต้นของต้นไม้นั้นมีขนของสัตว์บางอย่างอยู่.นอกจากนี้รังดังกล่าวยังซ้อนกันอยู่,จากเหตุผลดังกล่าว ข้าลงความคิดเห็นว่ามันเป็นรังของหมีจิ้งจอกนั่นเอง,หมีจิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์ที่ได้ตัวใหญ่มากเกินไป อย่างมากก็มีความสูงอยู่ที่ 1-2 เมตร และมีความแข็งแรงมาก ด้วยกองไม้ที่มีจำนวนมากถึงเพียงนี้ ที่นี้คงจะเคยมีหมีจิ้งจอกอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเป็นแน่”
‘เนี่ยหลี่’วิเคราะห์
ได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ทั้ง’เฉินหลินเจียน’และลูกน้องที่อยู่ข้างๆเขาต่างตกตะลึง เขาทุกคนต่างมองมายัง’เนี่ยหลี่’ แม้มีข้อมูลเพียงเล็กน้อย สามารถวิเคราะห์ได้เลยว่ามีอะไรเคยอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวเลยทีเดียว,สำหรับเทือกเขาบรรพบุรุษนั้นมีชนิดของสัตวปิศาจนับแสนชนิดทีเดียวทีอาศัยอยู่รอบๆนี้
ดูเหมือนตามความเห็นของ’เนี่ยหลี่’นั้นจะเป็นเรื่องจริง ‘เฉินหลินเจียน’คิด
“ด้วยข้อมูลเล็กๆน้อย พวกนี้ เจ้าสรุปได้เลยเหรอว่ามันเป็นรังของหมีจิ้งจอก. ไม่คิดว่ามันจะเป็นการเดาสุ่มมาเกินไปรึ?”
‘เสิ่นเหย่’ออกความคิดเห็นบ้าง.มันว่าความคิดเห็นของ’เนี่ยหลี่’จะถูกหรือผิด,เข้าก็จะค้านมัน
“พูดต่อซิ”
‘เฉินหลินเจียน’ไม่ได้สนใจคำพูดของ’เสิ่นเหย่’ เค้ายังมองไปที่’เนี่ยหลี่’
‘เสิ่นเหย่’เค้าไม่พอใจพยามจะพูด แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แม้ว่าเขากับ’เฉินหลินเจียน’นั้นจะเป็นทายาทจากตระกูลหลักเหมือนกัน,และเขาเป็นทายาทสายตรงในจำนวนเจ็ดคนของครอบครัวเทพศักดิ์สิทธิ์ในรุ่นนี้แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจ.
ถ้าเขาสามารถที่จะ’แต่งงาน’กับ ‘เย่จื้ออวิ๋น’เท่านั้นที่จะทำให้เขามีตำแหน่งที่สูงขึ้นในตระกูล ที่จะสามารถเป็นตัวเลือกของผู้นำตระกูลคนต่อไป.แต่’เฉินหลินเจียน’นั้นต่างออกไปเขาเป็นคนพิเศษและความมีความสามารถที่สูง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะทำลายความสัมพันธ์กับเขา
‘เนี่ยหลี่’ทำท่าล้อเลียน’เสิ่นเหย่’และพูดต่อไปว่า
“หมีจิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับเงิน มันจะใช้เวลาในการจำศีลเป็นเวลา 3-5 ในถ้ำเพื่อจำศีล แต่เมือมาถึงต้นฤดูร้อน พวกมันจะออกมาจากถ้ำมุ่งหน้าไปยังป่าเพื่อที่จะออกล่า”
“งั้นมันคือช่วงเวลานั้นของปีใช่รึไม่?”
‘เฉินหลินจิน’ ถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว”
เนี่ยหลี่พยักหน้า
“หมีจิ้งจอกนั่นเป็นอสูรที่ค่อนข้างหวงอาณาเขตของตนเป็นอย่างยิ่ง มันจะใช้ฉี่เพื่อแสดงอาณาเขตของตน ก่อนหน้านี้ข้าได้กลิ่นของฉี่มัน อาจเป็นไปได้ว่าพวกมันจะฉี่ทิ้งเอาไว้หลังจากที่ออกมาจากถ้ำ ข้าคาดว่าอีกไม่นายพวกเราคงได้เผชิญหน้ากับพวกมันเป็นแน่”
‘เนี่ยหลี่’นั้นเป็นคนที่รอบคอบและมีการสังเกตุทั้งอย่างอย่างถี่ถ้วยและมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทำให้’เฉินหลินเจียน’นั้้นรู้สึกชื่นชมในตัวเขา เขามองว่า’เนี่ยหลี่’นั้นเหมือนกับปิศาจข้อมูลที่เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี
“แล้วพวกเราควรทำเช่นไรดี”
‘เฉินหลินเจียน’ถามมุมมองของ’เนี่ยหลี่’
“พวกเราควรที่จะรีบออกเดินทางโดยทันที หมีจิ้งจอกนั้นไวต่อกลิ่นยิ่งนัก หากพวกเราต้องเผชิญหน้ากับพวกมันนั้นคงเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจุดหมายของเรานั้นคือเมืองกล้วยไม้โบราณ พวกเราจึงควรที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู่”
‘เนี่ยหลี่’จำได้ว่าชีวิตก่อนหน้านี้ของเขากับ’เย่จื้อหวิ๋น’นั้นการเดินทางไปที่เมืองร้างโบราณกล้วยไม้นั้น ได้ถูกโจมตีโดย’หมีจิ้งจอก’ มีหลายคนที่ต้องเสียชีวิต ‘เนี่ยหลี่’คิดว่าที่นี่จึงเป็นที่อันตรายยิ่งนัก
‘เฉินหลินเจียน’คิดอยู่ครู่นึงและพูดออกมาว่า
“เอาล่ะ,พวกเราจะออกเดินทางคืนนี้”
“นายน้อยเฉิน,ท่านอย่างพึ่งฟ้งเรื่องสาระของเขานะ สถานที่แห่งนี้ยังไม่เห็นมีร่องรอยใดๆของหมีจิ้งจอกเลย มันจะเป็นอันตรายมากขึ้นนะถ้าเราต้องเดินทางในเวลากลาคืน เราควรที่จะรอจนถึงรุ่งสางก่อนค่อยออกเดินทางก็ได้”
‘เสิ่นเหย่’ รีบที่จะโต้แย้งในทันที
‘เนี่ยหลี่’โบกมือไปมา.การตัดสินใจที่จะไปหรือไม่นั้นขึ้นอยุ่กับการตัดสินใจของ’เฉินหลินเจียน’,อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่คุกคามเขาได้
“เดินทางได้”
‘เฉินหลินเจียน’ยืนยันในคำพูด เขาเชื่อในสิ่งที่’เนี่ยหลี่’ออกความคิดเห็นมา
‘เฉินหลินเจียน’นั้นเป็นคนที่ฉลาด เขารู้ว่าใครควรที่จะเชื่อหรือใครไม่ควรเชื่อ
หลังกลับมาที่แคมป์พัก.’เฉินหลินเจียน’ได้รวบรวมทุกคนที่กำลังนอนหลับฝันอยู่
“นายน้อยเฉิน,เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ใช่.ทำใมเราต้องออกเดินทางในเวลากลางคืนด้วยล่ะ?”
ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความสงสัยไม่มีที่สิ้นสุด
“อย่าเพิ่งมากความ รีบตามข้ามาเร็วเข้า”
‘เฉินหลินเจียน’เขากล่าวอย่างมั่นคง โดยไม่ได้พูดถึงเหตุผลและนำคนอื่นๆออกมาจากป่า ‘เนี่ยหลี่’เดินออกมาพร้อมกับ’เย่จื้ออวิ๋น’ และถึงแม้ว่า’เย่จื้อหวิ๋น’จะสับสนเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไร
หลังจากที่พวกเขาก้าวออกมาจากป่าแล้ว พวกเขาก็ได้ยินเหมือนแผ่นดินจะไหวและมีเสียงของหมีคำรามออกมาจากป่า ทันทีที่ได้ยิน ทุกคนก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
“นายน้อยเฉิน ช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก”
“โชคดีที่นายน้อยเฉินนำพวกเราออกมาก่อน มิเช่นนั้นคงหลี่กเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้กับหมีจิ้งจอกแน่เลย”
ทุกคนต่างยกย่อง’เฉินหลินเจียน’ อย่างไรก็ตาม’เฉินหลินเจียน’นั้นรู้ดีทุกอย่างเป็นไปตามคำพูดของ’เนี่ยหลี่’ ถ้าเข้าไม่ได้ฟังคำพูดของ’เนี่ยหลี่’พวกเค้าคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนโจมตีแน่นอนและคงต้องมีผู้ได้รับบาดเจ็บบ้างเป็นแน่
ในขณะนี้นั้น’เฉินหลินเจียน’เต็มไปด้วยความชื่นชม’เนี่ยหลี่’ ตั้งแต่ยังเด็กนั้นเขามักจะเป็นผู้นำของกลุ่มเสมอเพราะความสามารถ แต่นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ต้องยอมรับว่าความรู้ของ’เนี่ยหลี่’นั้นหากจากเขามากเลยทีเดียว และทีต้องยอมรับอีกหนึ่งเลยคืออายุของ’เนี่ยหลี่’น้้นน้อยกว่าเขาหลายปีทีเดียว
ในขณะนี้นั้น’เสิ่นเหย่’รู้สึกผิดหวังอย่างแรง เขาไม่เคยคาดคิดว่าคำพูดของ’เนี่ยหลี่’นั้นจะเกิดขึ้นจริงๆหลังจากต้องเผชิญหน้ากับ’เนี่ยหลี่’หลายครั้ง เขาก็พ่ายแพ้ตลอดซึ่งสร้างความคับแค้นในใจเขาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
แต่ยังโชคดี,ที่ตระกูลของเขาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับ3 ดาวเงิน ตามมาด้วยด้านหลัง ‘เสิ่นเหย่’แสดงสีหน้าที่น่ากลัว เมื่อ’เนี่ยหลี่’แยกออกจากลุ่มเมื่อไหร่ เขาจะหาโอกาสที่จะฆ่า’เนี่ยหลี่’ซะ
‘เนี่ยหลี่’นั้นเดินเงียบๆอยู่ข้างหลังพร้อมกับ’เย่จื้อหวิ๋น’.เข้ามองไปยังด้านหลังพร้อมกับเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มแบบเยาะ.เขาตระหนักได้ได้มีคน 3 คนกำลังตามมาข้างหลัง และแอบมองดูข้างหลัง’เสิ่นเหย่’,’เนี่ยหลี่’พอจะคาดเดาได้ทันทีว่าคนที่ตามหลังมาจะต้องมาจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาอาจกำลังที่จะหาโอกาสในการจัดการ’เนี่ยหลี่’อยู่ก็ได้
‘เย่จื้ออวิ๋น’และคนอื่นๆนั้นยังไม่รู้ว่าพวกเขากำลังถูกติดตามอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำให้’เนี่ยหลี่’ไม่รู้ตัวถ้าพวกที่ติดตามนั้นเป็นถึงระดับเงิน ถ้าไม่บอกพวกเขาให้รู้ คงมีปัญหาเกิดขึ้นแน่
“หนึ่ง,สอง,สาม.. ระดับ 3 ดาวเงิน”
‘เนี่ยหลี่’เดินไปอย่างช้าๆ
เมื่อรุ่งอรุณค่อยๆมาถึง ‘เฉินหลินเจียน’ นั้นเดินช้าๆเข้ามาข้างๆ’เนี่ยหลี่’,เขามองไปที่’เนี่ยหลี่’และพูดว่า
“ต้องของใจเจ้าแล้วสำหรับสายตาที่กว้างไกลของเจ้า น้องชาย มิเช่นนั้นเราคงโดนโจมตีเป็นแน่และแน่นอนคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีคนบาดเจ็บ ข้าเฉินหลินเจียนเป็นหนี้เจ้าแล้ว”
หากมีการบาดเจ็บล้มตายกันตั้งแต่วันแรกแล้วจะทำให้ขวัญกำลังใจในการทำงานเป็นทีมมีผลกระทบอย่างมาก ได้ยินคำพูดของ’เฉินหลินจียน’ ‘เย่จื้ออวิ๋น’มอง’เนี่ยหลี่’ด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดเลยว่าคนที่สังเกตุเห็นหมีจิ้งจอกนั้นจะเป็น’เนี่ยหลี่’
“นายน้อยเฉินก็พูดเกินไป”
‘เนี่ยหลี่’อย่างใจเย็นและถ่อมตัว
‘เฉินหลินเจียน’พยักหน้า.หลังจากได้พูดคุยกับ’เนี่ยหลี่’แล้ว,เขาก็เห็นความสามารถของ’เนี่ยหลี่’,ดู’เนี่ยหลี่’เป็นคนสงบเยือกเย็น,เขาชื่นชม’เนี่ยหลี่’ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
‘เนี่ยหลี่’พูดด้วยเสียงเบาๆไปยังเขาว่า
“นายน้อยเฉิน,เรากำลังถูกตาม”
หลังจากได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’,’เฉินหลินเจียน’ถึงกับตกใจ.เขาพยายามที่จะหันไปมองไปยังป่าข้างหลัง
“อย่างเพิ่งหันไปมอง มีผู้ฝึกยุทธระดับเงิน 3 คน กำลังสะกดรอยตามพวกเรามา ยังไม่รู้เหมือนกันว่าใครส่งพวกมันมา”
‘เนี่ยหลี่’บอกอย่ารวดเร็ว
‘เฉินหลินเจียน’หันกลับอย่างรวดเร็ว และแกล้วทำเป็นว่ากำลังทำตัวสบายๆอยู่
“พวกมันต้องการอะไรรึ?”
‘เฉินหลินเจียน’ขมวดคิ้ว,เขานั้นก็ไม่เคยมีปัญหากับใครๆซักคนที่เมืองกลอลี่
“พวกมันอาจมาจากสมาคมทมิฬ!”
‘เนี่ยหลี่’กล่าว แม้ว่าจะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าพวกมันทั้ง 3 มาจากตระกูลศักดิ์ ,’เนี่ยหลี่’ก็ยังบอกไปว่าพวกมันนั้นเป็นนักต่อสู้ระดับเงินจากสมาคมทมิฬ
หลังจากได้ยินคำพูดของ’เนี่ยหลี่’แล้ว ‘เฉินหลินเจียน’ กระพริบตาอย่างใจเย็น สำหรับสมาคมทมิฬนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองกลอรี่ พวกมันเป็นองค์กรลับที่สร้างขึ้นโดยองกรอาชญากร โดยพวกมันมักจะไม่เปิดเผยตัวให้เห็นในที่แจ้งโดยพวกมันจะแอบทำเรื่องราวชั่วๆในที่มืดและเป็นศัตรูทุกคนในเมืองกลอรี่
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน”
‘เฉินหลินเจียน’ ตบไหล่ของ’เนี่ยหลี่’และเดินไปข้างหน้า
ที่มาจาก http://tdgnovelthaitranslate.blogspot.com/2016/04/tale-of-demon-and-god-novel-chapter-27.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น